การดำน้ำแบบ Freediving

Freediving ดำน้ำสัมผัสสัตว์ใต้ทะเล แบบไม่ใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจ

ฟรีไดฟ์หรือการดำน้ำอย่างอิสระ โดยไม่พึ่งพาอุปกรณ์ช่วยหายใจอย่างถังออกซิเจน บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับการ Freediving ในโลกใต้น้ำ พร้อมแนะนำอุปกรณ์พื้นฐานที่ต้องใช้ และพิกัดสถานที่ฟรีไดฟ์ในไทยที่ห้ามพลาด

วันนี้ดีแคทลอนจะพาทุกคนมารู้จักกับ Freediving หรือกิจกรรมดำน้ำที่กำลังเป็นที่นิยมว่า ฟรีไดฟ์คืออะไร แตกต่างจากการดำน้ำแบบอื่น ๆ อย่างไร พร้อมบอกทักษะพื้นฐาน และแนะนำสถานที่ดำน้ำในไทยที่นักดำน้ำทุกคนไม่ควรพลาด มาเตรียมตัวหนีร้อนไปดำน้ำกันเลย

Freediving คืออะไร?

Freediving หรือฟรีไดฟ์ คือ การดำน้ำแบบกลั้นหายใจโดยไม่ใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจอย่างถังออกซิเจน นักดำน้ำแบบ Freedive จะใช้เพียงหน้ากาก ท่อหายใจ (สน็อกเกิล) และตีนกบเท่านั้น โดยจะดำดิ่งลงไปใต้น้ำประมาณ 5 – 10 เมตร สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ โดยอาศัยการฝึกฝนควบคุมร่างกาย และการหายใจ เพื่อให้สามารถอยู่ใต้น้ำได้นานที่สุด

ความแตกต่างระหว่าง Freediving, Scuba Diving และ Snorkeling

หลายคนอาจไม่แน่ใจว่า Freediving แตกต่างจากการดำน้ำประเภทอื่นอย่างไร Decathlon จะมาไขข้อสงสัยไปพร้อม ๆ กันเลย

Freediving

Freediving คือ การดำน้ำโดยไม่ใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจ จะต้องกลั้นหายใจด้วยตัวเอง และใช้อุปกรณ์เสริมเพียงหน้ากาก ท่อหายใจ และตีนกบ ซึ่งเป็นการดำน้ำที่ต้องฝึกฝน และควบคุมร่างกายอย่างดี เพื่อความปลอดภัย

Scuba Diving

Scuba Diving คือ การดำน้ำลึก โดยใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจ เช่น ถังออกซิเจนที่จะช่วยให้สามารถดำน้ำได้ลึก และนานขึ้น จึงต่างจากการฟรีไดฟ์ที่ต้องฝึกกลั้นหายใจใต้น้ำด้วยตัวเอง และที่สำคัญการ Scuba Diving จะต้องผ่านการฝึกอบรม รวมถึงการใช้อุปกรณ์อย่างถูกต้อง เพื่อความปลอดภัย

Snorkeling

Snorkeling คือ การดำน้ำตื้น ชมสิ่งมีชีวิต ปะการังใต้น้ำ โดยใช้อุปกรณ์เสริมอย่างเสื้อชูชีพ หน้ากาก และท่อหายใจ เหมาะสำหรับใครที่อยากเริ่มต้นดำน้ำหรือใครที่ว่ายน้ำไม่เป็น

ทำไมการดำน้ำแบบ Freediving ถึงเป็นที่นิยมในปัจจุบัน

ปัจจุบัน Freediving เป็นกิจกรรมดำน้ำที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะนอกจากจะเป็นกิจกรรมที่ได้สัมผัสกับธรรมชาติใต้น้ำได้อย่างอิสระ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สงบ หลีกหนีความวุ่นวายบนดิน นอกจากนี้ ยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย และฝึกการหายใจของปอดอีกด้วย 

แนะนำอุปกรณ์พื้นฐาน Freediving ที่มือใหม่ต้องมี

มาจดลิสต์อุปกรณ์พื้นฐานที่ต้องมีในการ Freediving เตรียมความพร้อมก่อนออกทริปกันเลย

สวมหน้ากากดำน้ำและตีนกบในการ Freediving

หน้ากากดำน้ำ (Mask)

หน้ากากดำน้ำ จะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำทะเลเข้าตา สามารถทำกิจกรรมฟรีไดฟ์ได้อย่างอิสระ มองเห็นโลกใต้น้ำได้อย่างชัดเจน โดยที่ Decathlon มีหน้ากากดำน้ำคุณภาพให้เลือกซื้อหลากหลายรุ่น มอบความปลอดภัย และความคมชัดสูงสุด อีกทั้งยังสามารถป้องกันรังสียูวี และรังสี HEV ที่เป็นอันตรายต่อดวงตาได้อีกด้วย

สน็อกเกิล (Snorkel)

อีกหนึ่งตัวช่วยในการหายใจระหว่างฟรีไดฟ์ คือ สน็อกเกิล โดยจะใช้ในตอนที่เราลอยตัวบนผิวน้ำหรือบริเวณน้ำตื้น ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญของใครที่อยากทำกิจกรรม Snorkeling อีกด้วย สามารถเลือกซื้อสน็อกเกิลที่ตอบโจทย์คุณได้ที่ดีแคทลอน เพราะมีให้เลือกทั้งของเด็ก และของผู้ใหญ่ วัสดุคุณภาพดีให้สัมผัสที่สบายภายในปาก หมดปัญหาสำลักน้ำ

ตีนกบ (Fins)

ตีนกบหรือฟิน จะช่วยทุ่นแรงในการดำลงไปใต้น้ำ เพราะการใส่ฟิน จะช่วยให้เราสามารถดำลงไปใต้น้ำได้ง่าย และคล่องแคล่วขึ้น ควรเลือกตีนกบที่เหมาะสมกับตัวเอง และระดับความลึก โดยที่ดีแคทลอนมีตีนกบให้เลือกซื้อทั้งสำหรับดำน้ำตื้น และน้ำลึก วัสดุแข็งแรง ทนทาน เช่น ตีนกบสำหรับดำน้ำลึกรุ่น SCD 500 ที่ช่วยให้คุณทำกิจกรรม Freediving แหวกว่ายใต้น้ำได้อย่างอิสระ และคล่องตัวมากยิ่งขึ้น

ชุดเวทสูท (Wetsuit)

การสวมชุดเวทสูทขณะ Freediving จะช่วยป้องกันความเย็นของน้ำ และลดการสูญเสียความร้อนของร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการถูกทำร้ายจากสิ่งแวดล้อมใต้น้ำ และที่ดีแคทลอนมีชุดเวทสูทที่น้ำหนักเบา สวมใส่ง่าย วัสดุมีความยืดหยุ่น สามารถสำรวจโลกใต้ทะเล เคลื่อนไหวได้อย่างเต็มที่

นาฬิกาดำน้ำ (Dive Computer)

ไอเทมที่สำคัญในการ Freediving ไม่แพ้อุปกรณ์อื่น ๆ คือ นาฬิกาดำน้ำหรือที่เรียกว่า Dive Com นอกจากจะช่วยบอกเวลาแล้ว ยังสามารถบอกอุณหภูมิ ตำแหน่ง ความลึก วัดอากาศจากถังออกซิเจน รวมถึงแจ้งเตือนความปลอดภัย เช่น เตือนเมื่อดำน้ำลึกเกินไปอีกด้วย

ทักษะพื้นฐานที่มือใหม่ควรรู้ก่อนเริ่ม Freediving

ก่อนเริ่มต้น Freediving มีทักษะพื้นฐานสำคัญที่ควรเรียนรู้ และฝึกฝน เพื่อความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการดำน้ำ ดังต่อไปนี้

  • ฝึกเทคนิคการหายใจที่ถูกต้อง โดยเน้นการหายใจด้วยกระบังลม และพัฒนาความสามารถในการกลั้นหายใจ 
  • ฝึกเทคนิคการปรับความดันในหู จมูก และหน้ากาก
  • ฝึกทักษะการว่ายน้ำให้แข็งแรง และเรียนรู้เทคนิคการเตะขาด้วยตีนกบ
  • เรียนรู้การปรับน้ำหนักให้เหมาะสมสำหรับการดำน้ำ และฝึกควบคุมการลอยตัวที่ระดับความลึกต่าง ๆ
  • ฝึกเทคนิค Duck Dive เพื่อเอาชนะแรงลอยตัวบวกในช่วงแรกของการดำ
  • เรียนรู้การใช้ร่างกาย และแขนเพื่อช่วยในการดำลงอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ฝึกการสื่อสารใต้น้ำด้วยสัญญาณมือ 
  • เรียนรู้การใช้ และการสวมใส่อุปกรณ์พื้นฐาน เช่น หน้ากาก ท่อหายใจ และตีนกบ

สถานที่Freediveยอดนิยมได้แก่เกาะต่าง ๆ ในประเทศไทย

แจกพิกัดสถานที่ Freediving ในไทยที่ไม่ควรพลาด

วันนี้ Decathlon จะมาแนะนำ 5 สถานที่ Freediving ในไทยที่ไม่ควรพลาด

  • เกาะริ้น จังหวัดชลบุรี : เกาะใกล้กรุงเทพที่สามารถไป Freediving เปิดประสบการณ์ดูสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด และปะการังสีสันสวยงาม 
  • เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล : ใครที่อยาก Freediving ในหลายระดับความลึก เกาะหลีเป๊ะก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ สามารถไปสัมผัสน้ำทะเลที่ใสสะอาด พร้อมส่องปะการังอันสวยงามได้อย่างเพลิดเพลิน
  • เกาะเต่า จังหวัดสุราษฏร์ธานี : แหล่งดำน้ำชื่อดังที่เหมาะสำหรับทุกระดับ มีจุดดำน้ำมากมายรอบเกาะ เหมาะสำหรับ Freediving ที่ระดับความลึกประมาณ 5 - 17 เมตร
  • หมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา : หากอยาก Freediving แล้วเจอปลาสายพันธุ์หายากในน้ำทะเลสีฟ้าใส จะต้องห้ามพลาดหมู่เกาะสุรินทร์
  • เกาะห้าลากูน จังหวัดกระบี่ : มีแปลงปะการังผิวเกล็ดแข็งมากมาย น้ำทะเลไล่เฉดสีสวยงาม เหมาะสำหรับ Freediving ที่ระดับความลึก 5 -15 เมตร

ข้อควรระวังและความปลอดภัยในการ Freediving

  • ควรเช็กอุณภูมิของน้ำก่อนทำกิจกรรม หากน้ำเย็นเกินไป อาจทำให้เป็นตะคริว
  • ไม่ควร Freediving คนเดียวหรือตามลำพัง ควรมีคู่ดำน้ำที่ผ่านการฝึกอบรม และสามารถช่วยเหลือได้เสมอ เพื่อความปลอดภัยหากเกิดเหตุฉุกเฉิน
  • ไม่ควรหายใจเข้าลึก และถี่ก่อนดำน้ำ เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายหรือการเกิด Black out 
  • ไม่ควรดำลึกเกินขีดความสามารถของตนเอง
หลังจากอ่านบทความนี้จบแล้ว มาเตรียมตัวจัดกระเป๋าไป Freediving กันเลย หากใครอุปกรณ์ยังไม่ครบหรือกำลังมองหาอุปกรณ์กีฬาทางน้ำอื่น ๆ เพิ่มเติม สามารถมาเลือกซื้อได้ที่ดีแคทลอนทุกสาขาหรือช่องทางออนไลน์ เพราะดีแคทลอนมีอุปกรณ์หลากหลายชนิด ตอบโจทย์ทุกกิจกรรมในที่เดียว