Snorkeling หรือ Scuba Diving เลือกอย่างไหนดี | ดีแคทลอน ประเทศไทย

Snorkeling vs Scuba ต่างกันอย่างไร

ความแตกต่างระหว่าง Snorkeling และ Scuba Diving ต่างกันอย่างไร แล้วเราควรเลือกอันไหนดี วันนี้ Decathlon Thailand เตรียมข้อมูลมาให้คุณแล้ว

ใครอยากไปเที่ยวทะเลขอให้ยกมือขึ้น! เชื่อว่าทะเลสวย น้ำใส หาดทรายขาว เป็นอะไรที่ฮีลใจหลายคนได้ดี แล้วพอวันหยุดยาวทีไร ใครต่อใครก็บอกว่าจะไปทะเลกันทั้งนั้น แต่จะให้ไปเล่นบอลชายหาด ก่อทราย หรือขี่ Banana Boat อย่างเดียวก็คงเป็นอะไรที่เราทำกันจนชินแล้ว

ถ้าพูดถึงกิจกรรมตอนเที่ยวทะเลที่ได้รับความสนใจมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็คงหนีไม่พ้น “การดำน้ำ” อย่างการ Snorkeling และ Scuba Diving แต่เอ๊ะ… การดำน้ำสองแบบนี้มันต่างกันยังไง เราจะดำน้ำแบบไหนดีล่ะ?

ดำน้ำตื้น vs ดำน้ำลึก กับความแตกต่างที่สำคัญ

Snorkeling คืออะไร?

Snorkeling คือ การดำน้ำตื้น ที่หลายคนน่าจะคุ้นชินกันแล้ว ยิ่งตอนที่ไปเที่ยวทะเลหรือออกเรือไปตามเกาะต่างๆ ก็มักจะมีทริปดำน้ำตื้นดูปะการังให้เห็นกันบ่อยๆ โดย Snorkeling เป็นการดำน้ำแบบที่เน้นการอยู่บนผิวน้ำ คนที่ว่ายน้ำไม่แข็งก็สามารถใส่ชูชีพให้ลอยตัวได้ ซึ่งเราจะคาบ Snorkel ไว้ตลอด โดยที่ปลายท่อหายใจจะอยู่บนพ้นน้ำเพื่อหายใจ

การดำน้ำตื้นเป็นกิจกรรมสันทนาการที่ทุกคนสามารถทำได้ ไม่จำเป็นต้องมีใบรับรอง (Certificate) หรือเตรียมตัวมากมายนัก เด็กๆ สามารถลงได้แบบไม่มีปัญหา จัดเป็นกิจกรรมครอบครัวได้เลย ซึ่งส่วนใหญ่ Snorkeling มักจะทำในบริเวณน้ำลึกไม่เกิน 9 เมตร เพื่อให้เห็นแนวปะการังได้ชัดๆ นั่นเอง

Scuba Diving คืออะไร?

Scuba Diving คือ การดำน้ำลึก ที่จะใช้เซ็ตอุปกรณ์เรียกว่า Self-Contained Underwater Breathing Apparatus (Scuba) หรือก็คือการสวมใส่อุปกรณ์ช่วยหายใจขณะดำน้ำ ทำให้เราสามารถหายใจเมื่ออยู่ใต้น้ำได้เป็นระยะเวลานาน เปิดโอกาสให้เราได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ชมฝูงปลา ปะการัง และสัตว์ใต้ท้องทะเลแบบเพลินสุดๆ

ทั้งนี้การจะดำน้ำลึกให้ปลอดภัย จำเป็นต้องลงเรียนคอร์ส Scuba Diving กันก่อน ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการหายใจที่ถูกต้อง การใช้อุปกรณ์ต่างๆ รวมไปถึงสัญญาณมือ ถ้าอยากน้ำแบบ Scuba Diving ทุกวันนี้ก็มีโรงเรียนสอนดำน้ำเปิดอยู่หลายที่ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งหลักสูตรดำน้ำที่นิยมสอนในไทยจะมีอยู่หลักๆ 2 แบบ คือ PADI และ SSI ที่ได้รับการรับรองจาก ISO และ WRSTC ทั้งคู่ จึงเป็นมาตรฐานในการเรียนการสอนดำน้ำทั่วโลก

จะไปดำน้ำทั้งที ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง?

ก่อนจะไปดำน้ำ นอกจากทักษะของตัวเองแล้วก็ต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม เพื่อที่จะดำน้ำได้อย่างปลอดภัย ให้เราโฟกัสกับการดูปลา ชมปะการังได้อย่างไร้กังวล ซึ่งการดำน้ำแต่ละแบบ ก็มีอุปกรณ์ที่ใช้ต่างกันไป แบ่งได้ดังนี้

อุปกรณ์ในการดำน้ำ Snorkeling

1. หน้ากากดำน้ำของสน็อกเกิ้ล (Mask)
ใช้สำหรับมองใต้น้ำเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าจมูกและตา อีกทั้งช่วยให้มองใต้น้ำได้ชัดเจน ขอแนะนำให้เลือกหน้ากากดำน้ำที่มีขนาดพอดีและกระชับกับใบหน้า ตอนสวมใส่ควรตรวจสอบไม่ให้มีเส้นผมเข้าไปในหน้ากาก หรือมีจุดใดจุดหนึ่งที่หลวม เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำทะเลเข้าไปภายในหน้ากาก

2. ท่อหายใจ (Snorkel)
อุปกรณ์สำคัญที่ขาดไปไม่ได้ ท่อหายใจคืออุปกรณ์ที่เราคาบไว้ขณะดำน้ำเพื่อหายใจผ่านปาก โดยปลายท่ออีกด้านจะอยู่บนผิวน้ำเพื่อดูดอากาศมาใช้หายใจ ควรเลือกขนาดที่เหมาะสม หรือแบบที่ปรับขนาด

3. เสื้อชูชีพ (Life Jacket)
อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย ที่ช่วยให้เราลอยตัวอยู่บนผิวน้ำโดยไม่จม

อุปกรณ์ในการดำน้ำ Scuba Diving

1. หน้ากากดำน้ำของสคูบ้า (Mask)
ใช้สำหรับมองใต้น้ำเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าจมูกและตา อีกทั้งช่วยให้มองเห็นโลกใต้ทะเลได้ชัดเจน แนะนำให้เลือกหน้ากากดำน้ำที่มีขนาดพอดีและกระชับกับใบหน้า ตอนสวมใส่ควรตรวจสอบไม่ให้มีเส้นผมเข้าไปในหน้ากาก หรือมีจุดใดจุดหนึ่งที่หลวม เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำทะเลทะลักเข้าไปในหน้ากาก

2. ถังอากาศ (Oxygen Tank)
อาจเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดในการดำน้ำแบบ Scuba Diving เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นถังที่บรรจุอากาศหายใจ ซึ่งจะทำให้เราสามารถหายใจและอยู่ใต้น้ำได้นานถึง 45-50 นาที

3. เรกูเลเตอร์ดำน้ำ (Regulator)
อุปกรณ์ปรับแรงดันสำหรับหายใจใต้น้ำที่จะต่อกับถังอากาศเพื่อจ่ายอากาศให้กับเรา และเป็นตัวปรับแรงดันอากาศในถังอากาศให้เหมาะสมกับการหายใจใต้น้ำ ซึ่งสายของ Regulator จะมีอยู่ 2 เส้น คือ เส้นหลักเพื่อใช้หายใจเอง และเส้นสำรองไว้ให้อากาศกับบัดดี้ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน

4. ตีนกบ (Fin)
อุปกรณ์ที่ช่วยในการเคลื่อนไหวใต้น้ำ ทำให้เราคล่องตัวและดำน้ำได้เร็วขึ้น ทุกวันนี้ ตีนกบมีให้เลือกหลายรูปแบบ ทั้งวัสดุ ขนาด และรูปทรงที่แตกต่างกันไป ถ้าใครที่ไม่คุ้นเคยกับการเลือกตีนกบ ก็ขอแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเลือกชิ้นที่เหมาะกับเรามากที่สุด

5. ชุดดำน้ำ (Wetsuit)
เพราะยิ่งน้ำลึกยิ่งเย็น ชุดดำน้ำหรือเว็ทสูท เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ป้องกันความเย็นจากการอยู่ในน้ำเป็นเวลานานๆ นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันผิวจากอันตรายต่างๆ เช่น แมงกระพรุน ปะการัง หรือสัตว์มีพิษต่างๆ ดังนั้น จึงควรเลือกเว็ทสูทที่หนา ทำจากวัสดุที่เป็นฉนวนกันความร้อน และยืดหยุ่นได้ดี โดยชุดดำน้ำก็มีหลายแบบให้เลือก ทั้งแบบเต็มตัว ขาสั้น หรือแยกเสื้อกับกางเกง

6. Buoyancy Control Device (BCD)
อุปกรณ์ควบคุมการลอยหรือการจมของเรา ซึ่งทำงานโดยการเติมลมเข้าหรือปล่อยลมออก ควบคู่กับการหายใจ จะช่วยให้เราสามารถอยู่ใต้น้ำได้อย่างสมดุล

7. Dive Computer
เรียกง่ายๆ ว่า นาฬิกาดำน้ำ เป็นอุปกรณ์ที่จะระบุข้อมูลต่างๆ ในการดำน้ำ สามารถช่วยในการคำนวณอากาศหายใจ พร้อมติดตามการดำน้ำของเรา ซึ่งจะบอกทั้งความลึก อุณหภูมิ เวลา และข้อมูลต่างๆ คอยแจ้งเตือนระยะเวลาที่ปลอดภัยในการดำน้ำ เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายต่างๆ

จะเห็นได้ว่าการดำน้ำ Scuba Diving นั้นอาศัยอุปกรณ์เยอะมาก ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของนักดำน้ำ หากใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์ดำน้ำ แต่ไม่อยากเสียเวลาตามหาจากหลายๆ ร้าน ที่ ดีแคทลอน (Decathlon) นั้นมีอุปกรณ์ครบครัน ช้อปในที่เดียวก็พร้อมไปดำน้ำแล้ว!

ดำน้ำครั้งหน้า ไปทะเลที่ไหนดี

อยากดำน้ำแล้ว! แต่จะไปดำที่ไหนดีล่ะ? บอกเลยว่าไม่ต้องไปที่ไหนไกล เพราะประเทศไทยเราเองนี่ละ มีสถานที่ดำน้ำตามเกาะต่างๆ มากมาย ที่ทั้งสวยงามและเต็มไปด้วยสัตว์ใต้ทะเลมากมาย วันนี้ดีแคทลอน ขอมาแนะนำ จุดน่าดำน้ำในประเทศไทยที่นักดำน้ำพลาดไม่ได้

เกาะสุรินทร์
สำหรับใครที่อยากดำน้ำดูปะการัง หมู่เกาะสุรินทร์เป็นสถานที่อันดับต้นๆ ของเมืองไทยที่ต้องไปเลยทีเดียว เพราะน้ำรอบหมู่เกาะนี้เรียกได้ว่า “ใสกิ๊ง” สามารถมองเห็นปะการังและสัตว์ทะเลได้อย่างชัดเจน ส่วนสีของน้ำทะเลที่ตัดกันอย่างชัดเจนระหว่างน้ำตื้นน้ำลึก โดยจุดตัดที่เปลี่ยนจะเป็นแนวปะการังทั้งหมดเลย นอกจากนี้ยังมีปลาการ์ตูน ฝูงปลานกแก้ว ดอกไม้ทะเล ให้ชมกันอย่างจุใจ ได้รูปใต้ทะเลสวยๆ กลับมาแน่นอน จะออกทริปก็ไม่ยาก แค่ขึ้นเรือ Speed Boat จากท่าเรือทับละมุ จ. พังงา ประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที ก็ถึงจุดดำน้ำแล้ว

หมู่เกาะพีพี
หมู่เกาะพีพีนั้นประกอบไปด้วย เกาะเล็กๆ 6 เกาะ ที่ยังคงความสวยงามและความเป็นธรรมชาติเดิมเอาไว้ ต้องบอกเลยว่าน้ำทะเลที่นี่ใสไม่แพ้มัลดีฟส์เลยทีเดียว เป็นสถานที่ที่เหมาะกับออก One Day Trip ไปดำน้ำตื้นอย่างมาก แต่ถ้าใครอยากดำน้ำลึก ก็มีหลายจุดที่น่าสนใจไม่น้อย นอกจากนี้ หมู่เกาะพีพีอยู่ไม่ไกลจากภูเก็ต เดินทางโดย Speed Boat ในเวลาราวๆ 1 ชั่วโมงจากท่าเรือ Royal Marina Phuket เท่านั้นเอง

เกาะแสมสาร
สำหรับใครที่อยากไปเที่ยวทะเลแบบ One Day Trip ใกล้ๆ กรุงเทพฯ ต้องไปที่เกาะแสมสารนี่เลย เพราะเป็นเกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ ในอ. สัตหีบ จ. ชลบุรี ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้น โดยเราต้องจองตั๋วเรือล่วงหน้ากับเจ้าหน้าที่ฐานทัพเรือสัตหีบกันก่อนนั่นเอง และใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือหมาจอก็จะมาถึงหาดเทียน บนเกาะแสมสาร ประมาณ 30 นาที แน่นอนว่ากิจกรรมไฮไลต์ของที่นี่คือ การดำน้ำดูปะการัง ชมสัตว์ทะเลต่างๆ และยังมีให้นั่งเรือท้องกระจกอีกด้วย เป็นทะเลที่สวยไม่แพ้ทะเลทางใต้เลย

เกาะเต่า
เกาะเต่า จ. สุราษฎร์ธานี ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งดำน้ำที่ติดอันดับโลก เพราะมีจุดดำน้ำหลายจุดทั้ง ดำน้ำลึกและดำน้ำตื้น เช่น อ่าวม่วง อ่าวหินวง กองหินชุมพร กงทรายแดง และแหลมเทียม ประกอบกับแนวปะการังที่สวยงาม มีสัตว์น้ำนานาชนิดให้เห็นนับไม่ถ้วน นอกจากนี้ ยังมีโรงเรียนสอนดำน้ำลึก (Scuba Diving) หลายแห่งเปิดสอนที่เกาะอีกด้วย

เกาะกระดาน
เกาะทางทะเลใต้อีกหนึ่งเกาะที่สวยสดงดงาม จนได้ขนานนามว่าเป็นหนึ่งในชายหาดที่ดีที่สุดในโลก ประจำปี 2023 โดย World Beach Guide ของประเทศอังกฤษ ซึ่งเกาะกระดานอยู่ใน อ. กันตัง จ. ตรัง หาดทรายที่นี่มีสีขาวเนื้อเนียนละเอียด น้ำทะเลใส และมีแนวปะการังน้ำตื้นที่ทอดตัวเป็นแนวยาว โดยจุดที่สายดำน้ำต้องมาก็คือ อ่าวเนียง ที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ ซึ่งมีปะการังสวยงามตลอดแนว และยังมองเห็นเกาะลิบงที่อยู่ไกลๆ ได้ด้วย รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

ดำน้ำครั้งนี้ ให้ดีแคทลอนช่วยเตรียมอุปกรณ์แบบครบๆ

จะ Snorkeling, Scuba Diving หรือจะเตรียมตัวลงไปเล่นน้ำในทะเลที่ไหน ดีแคทลอนก็พร้อมช่วยให้คุณพร้อมลุยได้เต็มที่ เพราะที่ดีแคทลอน ประเทศไทย (Decathlon Thailand) นั้นมีอุปกรณ์กีฬาดำน้ำและว่ายน้ำอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นชุดดำน้ำ หน้ากากดำน้ำ ตีนกบ หรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆ เราก็มีให้เลือกแบบครบจบในที่เดียว

และหากคุณไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรดี พนักงานของเราทุกคนมีความเชี่ยวชาญด้านกีฬาพร้อมให้คำปรึกษา พร้อมแนะนำสินค้าที่เหมาะกับคุณ รับรองว่า ดำน้ำครั้งต่อไปได้แบบไร้กังวล

หากสนใจซื้อสินค้าหรือต้องการคำปรึกษา สามารถติดต่อดีแคทลอนได้ที่สาขาใกล้คุณ
เพจ Facebook: Decathlon Thailand ดีแคทลอน ประเทศไทย
อีเมล: [email protected]