sphere media background sample

กินอย่างไรเมื่อไปเดินป่า? เลือกอาหารให้พลังงานและง่ายต่อการพกพา

ยิ่งการเดินป่านานเท่าไร การเตรียมตัวก็ยิ่งสำคัญมากขึ้น อย่าลืมเตรียมอาหารมื้อหลัก ขนม และที่สำคัญที่สุดคือเครื่องดื่ม

ยิ่งเดินป่านานเท่าไร การเตรียมตัวก็ยิ่งจำเป็นมากขึ้น อาหาร ขนม และที่สำคัญที่สุดคือเครื่องดื่ม การเดินป่าเป็นกิจกรรมกลางแจ้งที่ผสมผสานทั้งการค้นพบสิ่งใหม่และการออกกำลังกายเข้าด้วยกัน ความร้อนและความหนาว รวมถึงความสูงจากระดับน้ำทะเล ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ทำให้ร่างกายต้องการพลังงานเป็นจำนวนมาก

กินอย่างไรเมื่อไปเดินป่า? เลือกอาหารให้พลังงานและง่ายต่อการพกพา

1. มื้ออาหารต้องครอบคลุมพลังงานที่ใช้ไป!

การเดินป่าเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้แรงและความพยายามเป็นเวลานาน โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องเดินขึ้นเนินหรือทางชัน ดังนั้น การเลือกอาหารจึงต้องคำนึงถึงการใช้พลังงานที่ต้องสูญเสียไป รวมถึงการต่อสู้กับความเหนื่อยล้า ความหนาวเย็น และบางครั้งยังต้องรับมือกับอาการจากการอยู่ที่ระดับความสูงอีกด้วย มื้ออาหารในแต่ละวันควรมีความสมดุลและให้แคลอรีเพียงพอเพื่อตอบสนองความต้องการของร่างกาย ซึ่งอาจสูงถึง 2,000 - 3,000 กิโลแคลอรีต่อวันในการเดินป่า นอกจากนี้ ความหลากหลายของอาหารก็สำคัญเช่นกัน เนื่องจากจะช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร ซึ่งอาจลดลงเมื่อเราอยู่ที่ระดับความสูงมากขึ้น

กินอย่างไรเมื่อไปเดินป่า? เลือกอาหารให้พลังงานและง่ายต่อการพกพา

2. จัดอาหารเช้าอย่างไรดี?

มื้อแรกของวันเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราเริ่มต้นวันได้ดีและหลีกเลี่ยงความเหนื่อยล้าและการทานของว่างตลอดการเดินป่า มื้อเช้านี้ควรให้คาร์โบไฮเดรตเป็นหลักเพื่อให้พลังงานในระยะยาว เราควรเลือกอาหารที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ (ที่เคยเรียกว่าคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน) เช่น ขนมปัง ซีเรียล เป็นต้น ในร้านค้าต่าง ๆ คุณสามารถพบกับอาหารเช้าบรรจุสำเร็จรูป เช่น ผงอาหารเช้าแบบพิเศษ (Ultra Breakfast) ที่สามารถละลายในน้ำให้กลายเป็นครีมข้น เป็นอาหารเช้าที่สะดวกและเหมาะกับการพกพา นอกจากนี้ การทานอาหารเช้าที่ให้พลังงานนั้นควรเสริมด้วยเครื่องดื่มอุ่น ๆ ซึ่งเหมาะมากในการช่วยให้ร่างกายอบอุ่นในช่วงเช้าที่อากาศเย็น อาหารเช้ายังควรมีผลไม้ น้ำผลไม้ หรือผลไม้บด เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินที่จำเป็นในปริมาณที่เพียงพออีกด้วย

กินอย่างไรเมื่อไปเดินป่า? เลือกอาหารให้พลังงานและง่ายต่อการพกพา

3. วิธีจัดเตรียมมื้อกลางวันสำหรับการเดินป่า

มื้อกลางวันมักจะเป็นมื้อที่กินอย่างรวดเร็วและมักมาในรูปแบบของปิกนิก อาหารกลางวันควรประกอบด้วยอาหารประเภทแป้งเป็นหลัก เช่น ขนมปังถ้าคุณเลือกแซนด์วิช หรือพาสต้าหรือข้าวหากคุณเลือกสลัดรวม เมนูตัวอย่าง: ขนมปัง แฮม ชีส ผักสลัด และเนย หรืออาจจะเป็นมายองเนสนิดหน่อยเป็นเครื่องเคียง หรือถ้าคุณชอบสลัด: พาสต้า หมูเย็นหั่นเต๋า มะเขือเทศหั่นเต๋า ข้าวโพด แตงกวาดอง และน้ำสลัดวินิเกรต

กินอย่างไรเมื่อไปเดินป่า? เลือกอาหารให้พลังงานและง่ายต่อการพกพา

ผลไม้

บางครั้งการพกพาผลไม้ที่เสียง่ายอาจเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะเมื่อการเดินป่ากินเวลาหลายวัน แต่การมีผลไม้เป็นส่วนหนึ่งของมื้ออาหารที่ดีเป็นสิ่งจำเป็น ตัวอย่างของอาหารสำหรับการเดินป่าหลายวัน: ขนมปังทูน่าหรือสเปรดที่ทำจากเนื้อสัตว์ปีกเบา ๆ หรือแฮม ผลไม้บดละเอียด
ไม่ว่าในกรณีใด มื้ออาหารนี้ควรมีคาร์โบไฮเดรตสูงและไขมันต่ำเพื่อให้ง่ายต่อการย่อยอาหาร และช่วยให้คุณสามารถกลับมาเดินป่าได้อย่างสบายและรวดเร็ว และอย่าลืมว่า "การดื่มน้ำ" เป็นสิ่งสำคัญที่สุดตลอดการเดินป่า และควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้มากที่สุด

กินอย่างไรเมื่อไปเดินป่า? เลือกอาหารให้พลังงานและง่ายต่อการพกพา

4. การจัดเตรียมอาหารเย็นควรทำอย่างไรดี?

หากคุณตัดสินใจออกไปตั้งแคมป์หรือพักค้างแรมกลางป่า มื้อเย็นจึงเป็นมื้อที่สำคัญ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณฟื้นฟูร่างกายจากการเดินทางในวันนี้ แต่ยังช่วยเตรียมตัวให้คุณพร้อมลุยต่อในวันถัดไปด้วย โดยปกติแล้ว มื้อเย็นจะค่อนข้างพิถีพิถันมากกว่ามื้อเที่ยง เพราะมีเวลามากกว่า แต่อาหารมื้อนี้ก็ควรเป็นอาหารที่ตอบสนองความต้องการของร่างกายที่ต้องออกแรงตลอดวัน ในขณะเดียวกันก็ต้องอร่อย น้ำหนักเบา และสามารถพกพาได้ง่ายเช่นกัน มื้อเย็นนี้สามารถเริ่มต้นด้วยซุปแบบแห้ง แนะนำให้เลือกซุปที่มีวุ้นเส้นเพื่อเพิ่มพลังงานและ/หรือซุปที่มีส่วนประกอบของไก่หรือปลาชิ้นเล็ก ๆ เพื่อเพิ่มโปรตีน ซุปนี้ยังสามารถเสริมด้วยพาสต้า ซึ่งเป็นอาหารที่พกพาสะดวกและมีพลังงานสูง แนะนำให้เพิ่มโปรตีนเข้าไปโดยอาจเลือกใช้ปลาทูน่ากระป๋องเป็นต้น นอกจากนี้ เพื่อให้การพกพาง่ายขึ้นและช่วยให้มื้ออาหารมีความหลากหลาย คุณยังสามารถเลือกใช้อาหารแห้งที่ออกแบบมาเพื่อการเดินป่าหรือกิจกรรมกลางแจ้งโดยเฉพาะ อาหารเหล่านี้มีน้ำหนักเบา พกพาง่าย และที่สำคัญยังมีความหลากหลาย เช่น พาสต้าคารีไก่ พาสต้าซอสโบโลเนส หรือเมนูแบบเชพเพิร์ดส์พาย

เพื่อปิดท้ายมื้ออาหาร คุณอาจเลือกของหวานอย่างแยมผลไม้หรือขนมเค้กข้าวเพื่อเพิ่มคาร์โบไฮเดรตให้ร่างกาย