5 วิธีเลือกไม้แบดมินตันง่าย ๆ ให้เหมาะกับสไตล์การตีของตัวเองที่สุด

5 วิธีเลือกไม้แบดมินตันง่าย ๆ ให้เหมาะกับสไตล์การตีของตัวเองที่สุด

ทำความรู้จักส่วนประกอบไม้แบดมินตัน และเผย 5 วิธีเลือกไม้แบดมินตันให้เหมาะกับคุณมากที่สุด พร้อมเคล็ดลับเพิ่มเติมในการเลือกซื้อ

กีฬาแบดมินตัน เป็นหนึ่งในกีฬาที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ด้วยเสน่ห์ที่เล่นง่าย สนุกร่วมกันได้ทุกวัย และมีนักกีฬาไทยสร้างชื่อเสียงบนเวทีระดับโลก ใครที่สนใจหันมาเล่นแบดมินตันจะต้องรู้วิธีเลือกไม้แบดมินตันที่เหมาะกับตัวเอง เพราะไม้แต่ละแบบมีโครงสร้าง น้ำหนัก และสมดุลที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลทั้งต่อพลัง ความคล่องตัว และการควบคุมลูกโดยตรง วันนี้ดีแคทลอนจะพาทุกคนไปดู 5 วิธีเลือกไม้แบดมินตัน ตอบคำถามไม้แบดมินตันแบบไหนดี พร้อมกระซิบไม้แบดมินตันแนะนำ 3 รุ่น เพื่อช่วยให้ทุกคนได้เจอไม้แบดที่ “ใช่” ตรงกับสไตล์ และความต้องการ

ไม้แบดมินตัน มีส่วนประกอบอะไรบ้าง

โครงสร้าง และวัสดุของไม้แบดมินตันมีผลต่อการเล่นอย่างมาก มาทำความรู้จักส่วนประกอบสำคัญของไม้แบดแต่ละส่วนกันเลย

1. ด้ามจับ (Grip)

เป็นส่วนที่จับติดมือ หากเลือกขนาดหรือวัสดุที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ควบคุมไม้ได้ไม่ดี โดยวัสดุตรงด้ามจับมีให้เลือกหลายประเภท เช่น ผ้าขนหนู และผ้าใยสังเคราะห์ และแม้ว่าที่จับผ้าขนหนู จะนุ่ม และช่วยดูดซับเหงื่อ แต่ก็ต้องเปลี่ยนบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการสะสมแบคทีเรีย

2. ก้านไม้ (Shaft)

เป็นส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างด้าม และเฟรม ระดับความแข็งหรือนิ่มมีผลต่อแรงดีด และความแม่นยำ

3. เฟรม (Frame)

เป็นโครงสร้างหัวไม้ที่รับเอ็น ควรเลือกเฟรมที่แข็งแรง รับแรงกระแทกได้ดี และน้ำหนักไม่มากเกินไป

4. เอ็นไม้แบด (String)

ความตึง และวัสดุของเอ็นส่งผลกับการตีว่า ลูกจะพุ่งไปเร็วหรือเน้นควบคุม ความตึงเอ็นมากจะตีลูกได้แรงกว่า

5 วิธีเลือกไม้แบดมินตัน แบบไหนที่ใช่คุณ

5 วิธีเลือกไม้แบดมินตัน แบบไหนดีที่เหมาะกับคุณ

การเลือกไม้แบดมินตันที่เหมาะกับสไตล์การเล่นไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตีลูก แต่ยังลดโอกาสการบาดเจ็บ และช่วยให้สนุกกับการเล่นมากขึ้น แล้วเลือกไม้แบดมินตันแบบไหนดี? วันนี้ดีแคทลอนรวบรวม 5 วิธีเลือกไม้แบดมินตันให้เหมาะกับคุณมาให้แล้ว

วิธีเลือกไม้แบดจากน้ำหนักไม้

1. เลือกจากน้ำหนักไม้ (Weight)

  • ไม้เบา (3U/4U: 80-89 กรัม) เหมาะผู้เล่นที่เน้นความคล่องแคล่ว แม่นยำ ต้องการควบคุมไม้ได้ดีในจังหวะตีเร็ว
  • ไม้หนัก (2U หรือมากกว่า: 90-100 กรัม) เหมาะกับผู้ที่เล่นเน้นพลัง สายตบ สายบุก มีทักษะควบคุมไม้ดีหรือต้องการตีลูกแรง ๆ 
  • สำหรับมือใหม่ จึงขอแนะนำให้เลือกไม้เบาหรือปานกลาง เพื่อลดโอกาสบาดเจ็บ และควบคุมไม้ได้ง่าย

2. เลือกจากสมดุลของไม้ (Balance Point)

  • ไม้หัวหนัก (Head Heavy Balance Point) จะมีจุดศูนย์ถ่วงอยู่ใกล้หัวไม้ เหมาะกับคนที่ชอบตีลูกแรง ๆ เช่น ลูกตบ หรือต้องการส่งพลังเป็นหลัก
  • ไม้หัวเบา (Head Light Balance Point) จุดศูนย์ถ่วงอยู่ใกล้ด้ามหรือกลางไม้ เหมาะกับสายเกมรับ เน้นความคล่องตัว บังคับหน้าไม้ได้ดี และตีลูกไว
  • ไม้สมดุล (Even Balance Point) จุดศูนย์ถ่วงอยู่กลางไม้ สามารถใช้ได้ทั้งเกมรุก และเกมรับ เหมาะกับมือใหม่หรือคนที่ยังไม่เจอสไตล์ที่ถนัด สามารถเปลี่ยนไปสายตบหรือสายรับได้ง่าย

3. เลือกจากความแข็งของก้านไม้ (Flexibility)

  • ก้านนุ่ม (Soft/Super Flex) เหมาะกับสายรับหรือมือใหม่ เพราะก้านมีความยืดหยุ่นสูง ช่วยดีดส่งลูกได้ง่าย ไม่ต้องใช้แรงมาก เหมาะสำหรับรับลูกตบหรือลูกดาด อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสบาดเจ็บได้
  • ก้านแข็ง (Stiff/Extra Stiff) เหมาะกับสายบุกหรือใครที่มีแรงแขนดี เพราะก้านแข็งจะช่วยถ่ายทอดแรงจากข้อมือสู่ลูกอย่างเต็มประสิทธิภาพ เหมาะกับลูกตบ และการตีที่ต้องการความแม่นยำสูง สามารถใช้ในการแข่งขันหรือใครที่มีทักษะสูง

วิธีเลือกไม้แบดจากขนาดและรูปทรงหน้าไม้

4. เลือกจากขนาดและรูปทรงหน้าไม้ (Frame Shape)

  • รูปทรงสี่เหลี่ยม (Isometric Shape) เป็นทรงยอดนิยมในปัจจุบัน โดยจะมี Sweet Spot กว้าง ให้พลัง และความแม่นยำมากขึ้น เหมาะกับทั้งมือใหม่หัดตี และใครที่ต้องการความคล่องแคล่วในการตีลูก
  • รูปทรงมาตรฐาน (Oval) เป็นเฟรมวงรีแบบเก่า บริเวณจุดหวาน (Sweet Spot) จะเล็ก เหมาะสำหรับใครที่ต้องการความแม่นยำในการตีสูง แต่ต้องมีทักษะดี และควบคุมไม้ได้แม่นยำ

5. เลือกจากงบประมาณและยี่ห้อที่เชื่อถือได้

สุดท้าย คือ วิธีเลือกไม้แบดมินตันจากงบประมาณ และยี่ห้อที่เชื่อถือได้ เพราะจะช่วยให้คุณได้ครอบครองไม้แบดมินตันที่อยู่ในงบประมาณ คุ้มค่า รวมถึงมั่นใจได้ในคุณภาพสินค้า โดยที่ Decathlon มีตัวเลือกหลากหลายสำหรับทั้งมือใหม่ และมืออาชีพ

มาดูไม้แบดมินตันแนะนำ 3 รุ่นที่ดีแคทลอนนำมาฝากกันเลย

  • แร็คเกตแบดมินตันสำหรับผู้ใหญ่รุ่นสีฟ้า (BR LITE 560)
    เหมาะกับผู้เล่นมือใหม่จนถึงระดับกลางที่ต้องการไม้แบดน้ำหนักเบา ตัวไม้ผลิตจากวัสดุที่แข็งแรง มีน้ำหนักเบาประมาณ 72 กรัม ทำให้ควบคุมทิศทางได้ง่าย และเพิ่มความคล่องแคล่วในการตี โดยความตึงของเอ็นอยู่ที่ประมาณ 20 - 24 IBS ช่วยเพิ่มพลังในการตบหรือวางลูก

  • แร็คเกตแบดมินตันสำหรับผู้ใหญ่รุ่นแพ็คคู่สีดำ-ขาว (BR SENSATION 500)
    ชุดไม้แบดที่เหมาะกับมือใหม่ที่อยากพัฒนาทักษะ โดยเฟรมแบบสี่เหลี่ยมจะช่วยเพิ่มจุดสัมผัสลูกให้กว้างขึ้น ลดโอกาสตีผิดศูนย์กลางไม้ มาพร้อมน้ำหนัก 84 กรัม ช่วยให้คุณสามารถควบคุมไม้ได้อย่างง่ายดาย เหมาะสำหรับเล่นคู่หรือใช้ฝึกซ้อมกับเพื่อน ด้วยราคาคุ้มค่า

  • ชุดไม้แบดมินตันสำหรับผู้ใหญ่รุ่นสีมะนาว-ฟ้า (Fun BR130)
    ชุดนี้เหมาะกับใครที่หันมาเริ่มเล่นแบดมินตันอย่างมาก เพราะภายในชุดประกอบด้วยไม้แบด 2 อัน ซองใส่ไม้ และลูกขนไก่ 2 ลูก โดยตัวไม้มีความทนทาน และหน้าไม้มีขนาดใหญ่ เพื่อช่วยให้มือใหม่ตีลูกได้ง่าย และลดโอกาสผิดพลาดจากการตีหลุดจุดศูนย์กลาง เหมาะสำหรับเล่นเพื่อสันทนาการหรือฝึกฝนพื้นฐานร่วมกับเพื่อนหรือครอบครัว

เคล็ดลับเพิ่มเติมในการเลือกไม้แบดมินตัน

เคล็ดลับเพิ่มเติมในการเลือกไม้แบดมินตัน มีอะไรบ้าง

1. ทดลองจับจริงก่อนซื้อ : ลองจับไม้แบดก่อนตัดสินใจ เพื่อดูว่ากระชับมือหรือไม่ น้ำหนักเป็นอย่างไร รวมถึงทดลองสวิง เพื่อที่จะช่วยให้มั่นใจว่า ไม้เข้ากับแรงแขน และข้อมือ รวมถึงรูปทรงด้ามหรือความหนาของ Grip ที่ถนัด

2. เลือก grip size ที่เหมาะสมกับมือ : ขนาดด้ามจับ (Grip Size) ต้องเหมาะกับขนาดมือ หากด้ามเล็กเกินไปจะควบคุมไม้ไม่ถนัด และต้องออกแรงมาก แต่ถ้าหากใหญ่เกินไป อาจทำให้จับไม่กระชับ 

3. ดูคู่กับสายเอ็นและแรงตึงของเอ็น : สายเอ็นขนาดใหญ่จะเด้งทน แต่ดีดน้อย ส่วนสายเอ็นเล็กจะตีดีดลูกแรง หากต้องการทดสอบความตึงไม้ ให้กดฝ่ามือกับเอ็นเพื่อดูว่าไม้จมลงไปได้แค่ไหน ความลึกของสายที่จมลงไป 1 มม. ถือเป็นแรงตึงที่ผู้เล่นส่วนใหญ่ชอบใช้ สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ ควรเลือกเอ็นใหญ่ ความตึงประมาณ 22-23 ปอนด์ เพื่อที่จะสามารถคุมลูกได้ง่าย และลดการบาดเจ็บ

ทั้งหมดนี้เป็นวิธีเลือกไม้แบดมินตันที่ดีแคทลอนนำมาฝาก เพื่อช่วยให้คุณค้นหา “ไม้ที่เหมาะกับสไตล์การเล่นของตัวเอง” เพราะไม่ว่าจะสายตบ สายรับ หรือเน้นคล่องตัว ไม้แต่ละรุ่นให้ฟีลลิ่ง น้ำหนัก จุดศูนย์ถ่วง และฟังก์ชันที่ต่างกัน

หากคุณกำลังมองหาไม้แบดมินตันคุณภาพดี ราคาเข้าถึงได้ และมีให้เลือกครบทุกแบบ ตอบโจทย์ทั้งมือใหม่ และมืออาชีพ สามารถไปทดลองไม้จริงได้ที่ Decathlon ทุกสาขาหรือเลือกช็อปผ่านเว็บไซต์ Decathlon ที่สะดวกสบาย เพราะเรามีบริการจัดส่งฟรีให้ถึงหน้าบ้าน เมื่อช้อปครบ 1,500 บาท และถ้าหากคุณสมัครสมาชิก Decathlon Membership สามารถเปลี่ยนสินค้าได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้ใบเสร็จ พร้อมรับประกันสินค้า 2 ปี และสามารถสะสมแต้มเพื่อรับส่วนสด ของรางวัลสุดพิเศษ และสิทธิประโยชน์ระดับพรีเมียมจากดีแคทลอนได้

นอกจากนี้ หากคุณกำลังมองหาของขวัญสุดพิเศษให้กับคนที่คุณรัก ลองมอบของขวัญแทนใจด้วย Decathlon Gift Card ให้มาเลือกสรรอุปกรณ์กีฬาในแบบที่ชอบ มูลค่าเริ่มต้น 100 บาทจนถึง 15,000 บาท อายุการใช้งาน 2 ปี ใช้งานสะดวกทั้งบนเว็บไซต์และที่ร้าน Decathlon ทุกแห่งในไทย

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q: ไม้แบด 4u กับ 5u ต่างกันยังไง?
A: ไม้แบด 4U หนักกว่า (80–84 กรัม) เหมาะสำหรับสมดุลรุก-รับ ได้แรงตีดี ส่วน 5U เบากว่า (75–79 กรัม) คล่องแคล่ว เหมาะกับสายรับ เล่นหน้าง่าย เหมาะกับมือใหม่หรือคนแรงน้อย

Q: ควรเปลี่ยนไม้แบดมินตันบ่อยแค่ไหน?
A: การเปลี่ยนไม้แบดมินตันขึ้นอยู่กับความถี่ในการเล่น และการดูแล โดยทั่วไปไม้ที่ใช้เล่นสม่ำเสมอควรเปลี่ยนทุก 1 - 2 ปี หรือเมื่อพบว่าไม้เสียหาย หรือประสิทธิภาพลดลง

Q: ควรซื้อไม้แบดมินตันจากที่ไหนและต้องระวังอะไรบ้าง?
A: ควรซื้อจากร้านกีฬาที่มีความน่าเชื่อถือ มีการรับประกันสินค้า และมีพนักงานที่ให้คำแนะนำได้อย่างที่ดีแคทลอน โดยก่อนตัดสินใจซื้อ ควรตรวจสอบความสมบูรณ์ของไม้ และทดลองถือให้เหมาะกับมือ

Q: ถ้าชอบเกมรุก-ตบแรง ควรเลือกไม้แบบไหน?
A: เลือกไม้หัวหนัก ก้านแข็ง เพราะจะช่วยเสริมแรงส่งในการตบได้มากขึ้น ซึ่งที่ดีแคทลอนมีไม้หลากหลายรุ่น ทั้งน้ำหนัก และบาลานซ์ให้เลือกตามต้องการ

Q: มือใหม่เลือกไม้แบดแบบไหนดี?
A: มือใหม่ ควรเลือกไม้ที่น้ำหนักเบา ก้านนิ่ม ด้ามจับพอดีมือ ช่วยลดแรงเมื่อยล้าข้อมือ และควบคุมลูกง่าย รวมถึงควรเลือกหน้าไม้ขนาดใหญ่ เพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่สัมผัสลูก