เราจะเดินป่าวันที่ฝนตกได้ไหม ถ้าฝนตกหนักระหว่างเดินป่าควรทำยังไง นี่จะเป็นเคล็ดลับให้เดินป่าในวันฝนตกได้อย่างสนุกและปลอดภัย
ช่วงฤดูฝนในประเทศไทย มีฤดูฝนตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม ช่วงเวลานี้จะมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ทำให้ป่าเขาและธรรมชาติมีความเขียวขจีและสวยงามเป็นพิเศษ แต่ก็ทำให้การเดินทางมีความยากลำบากขึ้นเนื่องจากสภาพถนนและทางเดินที่เปียกและลื่น รวมระยะเวลาประมาณ 5-6 เดือน ถือได้ว่าเป็นฤดูกาลที่มีระยะเวลายาวนานที่สุด ซึ่งปริมาณน้ำที่มากนี้ช่วยให้เกษตรกรสามารถเพาะปลูกได้เต็มประสิทธิภาพกว่าในทุกช่วงของปี และน้ำฝนยังช่วยขจัดสิ่งสกปรกและฝุ่นละอองภายในอากาศทำให้คุณภาพอากาศดีกว่าช่วงฤดูกาลอื่นๆ
การเดินป่าเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจและเป็นที่นิยมในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่าเพื่อสัมผัสธรรมชาติหรือเพื่อการผจญภัย ช่วงฤดูฝนถือเป็นช่วงที่ธรรมชาติกลับมามีชีวิตชีวาและอุดมสมบูรณ์ แต่การเดินป่าในช่วงฤดูฝนจำเป็นต้องมีการเตรียมตัวและความระมัดระวังมากกว่าปกติ ดังนั้น บทความนี้จะเสนอเทคนิคการเดินป่าหน้าฝนในประเทศไทยเพื่อให้การเดินป่าเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย
การตรวจสอบสภาพอากาศก่อนการเดินทางเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพื่อป้องกันการพบกับฝนตกหนัก อันตรายจากน้ำท่วม ดินถล่ม หรือสภาพอากาศที่ไม่เหมาะสมในการเดินป่า ควรตรวจสอบจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เช่น กรมอุตุนิยมวิทยา หรือแอปพลิเคชันพยากรณ์อากาศ การตรวจสอบสภาพอากาศจะช่วยให้คุณทราบว่ามีความเสี่ยงเหล่านี้หรือไม่สามารถหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงได้
อุปกรณ์กันฝนเป็นสิ่งที่จำเป็นในช่วงฤดูฝน เช่น เสื้อกันฝน กางเกงกันฝน และถุงคลุมเป้ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำฝนซึมเข้าไปทำให้อุปกรณ์และเสื้อผ้าเปียก
1. เสื้อกันฝน : เลือกเสื้อกันฝนที่มีคุณภาพดี กันน้ำได้ดี และระบายอากาศได้ เพื่อให้คุณสามารถเดินป่าได้อย่างสบายแม้ในสภาพอากาศเปียก
2. รองเท้ากันน้ำ : รองเท้าคู่ที่มีคุณสมบัติกันน้ำจะช่วยให้เท้าของคุณแห้งและป้องกันการลื่นล้มบนเส้นทางที่เปียกชื้น
3. ถุงกันน้ำสำหรับเก็บอุปกรณ์สำคัญ : การมีถุงกันน้ำสำหรับเก็บของสำคัญ เช่น โทรศัพท์มือถือ แผนที่ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จะช่วยป้องกันไม่ให้อุปกรณ์เหล่านี้เสียหายจากความชื้น
การเดินป่าในช่วงฤดูฝนเป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากสภาพอากาศที่เปียกชื้นและลื่น ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น การเลือกเส้นทางที่เหมาะสมและปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยง
1. เลือกเส้นทางที่มีการจัดการจากหน่วยงานหรือองค์กรที่ดูแลพื้นที่ป่า เช่น อุทยานแห่งชาติ หรือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เส้นทางเหล่านี้มักจะมีการดูแลและปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ
2. เส้นทางที่มีป้ายบอกทางและจุดพักที่ชัดเจน จะช่วยให้คุณสามารถเดินทางได้โดยไม่หลงทางและสามารถหาที่พักพิงได้ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน
3. เส้นทางที่มีความลาดชันสูงหรือผ่านหน้าผา ควรหลีกเลี่ยงในช่วงหน้าฝน เนื่องจากเสี่ยงต่อการลื่นไถลและอุบัติเหตุ
4. ก่อนการเดินทาง ควรสอบถามข้อมูลเส้นทางจากเจ้าหน้าที่หรือผู้มีประสบการณ์ในพื้นที่ เพื่อรับคำแนะนำและข้อมูลที่ทันสมัยเกี่ยวกับสภาพเส้นทางและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น การมีข้อมูลจากผู้มีประสบการณ์จะช่วยให้คุณเตรียมตัวได้ดียิ่งขึ้นและสามารถตัดสินใจเลือกเส้นทางที่ปลอดภัยได้
5. วางแผนเส้นทางการเดินทางให้ชัดเจน กำหนดจุดเริ่มต้นและสิ้นสุด รวมถึงจุดพักระหว่างทาง ตรวจสอบว่าเส้นทางมีที่พักพิงหรือจุดตั้งแคมป์ที่ปลอดภัย และแจ้งแผนการเดินทางนั้นให้เพื่อนหรือครอบครัวทราบ รวมถึงเวลาที่คาดว่าจะกลับมา เพื่อให้สามารถติดตามและช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินได้
การเลือกสวมรองเท้าที่มีพื้นกันลื่นและสามารถระบายน้ำได้ดี จะช่วยป้องกันการลื่นล้มและช่วยให้เดินในเส้นทางที่เปียกได้อย่างมั่นใจ
1. พื้นรองเท้ากันลื่น
เลือกรองเท้าที่มีพื้นรองเท้าทำจากวัสดุกันลื่น เช่น ยางที่มีการออกแบบลายดอกยางลึกและมีดอกยางที่ทนทาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มการยึดเกาะกับพื้นดินที่เปียกและลื่น
2. วัสดุที่กันน้ำได้ รองเท้าควรทำจากวัสดุที่มีคุณสมบัติกันน้ำที่สามารถป้องกันน้ำซึมเข้ารองเท้าได้ดี แต่ยังสามารถระบายอากาศได้ เพื่อให้เท้าของคุณไม่อับชื้น
3. การรองรับและความสบาย เลือกรองเท้าที่มีการรองรับข้อเท้าอย่างดี เพื่อป้องกันอาการเมื่อยล้า และช่วยป้องกันข้อเท้าพลิกหรือแพลงด้วย เหมาะสำหรับการเดินป่าบนเส้นทางที่ขรุขระ ลื่น หรือมีโขดหินมาก แถมช่วยป้องกันเท้าเปียกจากน้ำฝน น้ำค้าง หรือโคลน สำหรับการเดินป่าในหน้าฝนหรือพื้นที่ที่มีความชื้นสูง
เตรียมเสื้อผ้าและอุปกรณ์สำรองในกรณีที่เปียกชื้น รวมถึงเสื้อผ้าที่แห้งไวและง่ายต่อการซักล้าง และควรพกอุปกรณ์ทำความสะอาด เช่น ผ้าเช็ดตัวหรือกระดาษทิชชู่เพื่อทำความสะอาดร่างกายและอุปกรณ์ในกรณีที่มีโคลนหรือสิ่งสกปรกติดตัว
อุปกรณ์สำรองที่ควรมี
ไฟฉาย : ควรมีไฟฉายสำรองไว้เผื่อไฟฉายหลักของคุณเสียหรือแบตเตอรี่หมด แนะนำให้เลือกไฟฉายแบบ LED ที่ประหยัดพลังงานและให้แสงสว่างเพียงพอ
แบตเตอรี่สำรอง : เผื่อกรณีแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ หมด ควรเลือกแบตเตอรี่สำรองที่มีความจุเพียงพอต่อการใช้งาน
เข็มทิศและแผนที่ : แม้จะมี GPS ในโทรศัพท์มือถือ แต่เข็มทิศและแผนที่ก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเดินป่า โดยเฉพาะในกรณีที่โทรศัพท์มือถือของคุณเสียหรือแบตเตอรี่หมด
มีดพก : มีดพกพาเป็นอุปกรณ์อเนกประสงค์ที่จำเป็นสำหรับการเดินป่า สามารถใช้สำหรับตัดเชือก เตรียมอาหาร ป้องกันตัว และอื่นๆ
นกหวีด : สำหรับส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ
เงินสด : เผื่อกรณีที่ร้านค้าหรือจุดบริการต่างๆ ไม่รับบัตรเครดิต
สำหรับเก็บอุปกรณ์ที่สำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้เสียหายจากน้ำฝน เรามีกระเป๋าเป้ที่มีคุณสมบัติไม่ซับน้ำของดีแคทลอนมาแนะนำ ที่สามารถใส่เดินท่ามกลางฝนตกเบาๆได้
NH Escape 100 : ขนาด 16 ลิตร สำหรับการเดินป่าเป็นครั้งคราวบนที่ราบ และสำหรับใช้งานในชีวิตประจำวัน กระเป๋าซิป 5 ช่อง ที่ใส่ขวดน้ำ 2 ช่องช่องใส่แล็ปท็อปขนาด 15" 1 ช่อง และช่องใส่แท็บเล็ต 13" 1 ช่อง
NH Escape 500 Rolltop : เป้ 23 ลิตรที่มีช่องเปิดปิดแบบม้วนสำหรับใช้เดินป่าหรือใช้ในชีวิตประจำวัน (สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้) มีช่องกระเป๋า 13 ช่องเพื่อให้จัดเก็บของได้อย่างเป็นระเบียบ
NH Escape 500 : ขนาด 32 ลิตร รุ่นนี้สามารถถือขึ้นเครื่องบินได้ กระเป๋า 15 ช่องและช่องใส่ของ 3 ช่องช่วยให้เก็บของได้เป็นระเบียบ
ถ้าคุณต้องเดินทางหรือเดินป่าเมื่อฝนตกแรงขึ้น ขอแนะนำให้ปกป้องสัมภาระของคุณอีกชั้นด้วย ถุงคลุมกันฝน 20 ถึง 40 ลิตร หรือถุงขนาดที่มากกว่า 40 - 100 ลิตร สำหรับกระเป๋าที่คุณมีอยู่แล้วและขนาดใหญ่ก็คลุมด้วยถุงกันน้ำได้
การเดินป่าขึ้นเขาในหน้าฝนนั้น เต็มไปด้วยความท้าทายและอันตรายมากกว่าปกติ การเดินทางเป็นกลุ่มหรือกับไกด์ที่มีประสบการณ์จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้ดีขึ้น แถมการเดินป่ากับผู้อื่น ช่วยให้รู้สึกสนุกสนาน เพลิดเพลิน และลดความกังวลด้วย
การเดินป่าในช่วงฤดูฝนในประเทศไทยเป็นประสบการณ์ที่ท้าทายและน่าสนุกหากเตรียมตัวให้พร้อมและมีการวางแผนที่ดี ด้วยเทคนิคและการเตรียมตัวที่เหมาะสม การเดินป่าหน้าฝนจะเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำและปลอดภัยที่สุด